บทที่ 28 9.3 อภิเษกสมรส
และเขาอิจฉาที่นางสนิทสนมกับหานอี้ มากกว่าเขาที่กำลังจะกลายเป็นสามีของนางในเร็ววันนี้
“หยางเอ๋อร์” หลิวฮองเฮาเดินทางมาถึงวังของหานไท่หยางที่อยู่ใกล้ๆ กับเขตวังหลวง รอยยิ้มอบอุ่นประดับบนพระพักตร์งาม หลินกงกงกับเฉินหรงจึงเดินออกไปรอด้านนอก ปล่อยให้หลิวฮองเฮาจัดแต่ง
อาภรณ์ให้กับพระโอรสด้วยตนเอง
“วันนี้เป็นวันที่แม่ดีใจมากที่สุดเลยนะ” หลิวฮองเฮากล่าวขณะจัดชุดนอกของหานไท่หยางให้เรียบร้อย พร้อมกับสวมหมวกทรงขุนนางแบบมีปีกทั้งสองข้างลวดลายสีดำสนิท พร้อมกับเข็มขัดทองเหลืองที่พระนางสั่งทำอย่างประณีตที่สุดเพื่องานวันนี้ “แม่แค่เห็นเจ้ากำลังจะมีชายา แม่ก็ดีใจนัก”
อ๋องหนุ่มเก็บซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ภายในใจ เขาไม่รู้ว่าควรแสดงความรู้สึกเช่นไรดี เขาชินชาแล้วกับการแสดงใบหน้าเรียบเฉย ไร้อารมณ์ ไร้ความรู้สึกใดต่อผู้อื่น แม้กระทั่งจะแสดงใบหน้ายิ้มแย้มต่อมารดาตนเองในวันมงคลเขาก็ไม่อาจทำได้
หากเขายิ้มให้มารดา คนผู้นั้นจะเพ่งเล็งเขาจนพรากนางไปจากเขาอีกหรือไม่? แล้วกับว่าที่ชายาของเขาเล่า หากเขายิ้มให้นางนางจะโดนพรากจากเขา เหมือนที่เขาเคยพรากจากอกมารดาหรือไม่?
“แม่รู้ว่าในใจของเจ้ากำลังคิดสิ่งใด แม่ไม่หวังให้เจ้าแสดงทุกความรู้สึกออกมา แต่เจ้ากำลังจะมีภรรยาแล้ว แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะมาจากการบังคับฝืนใจเจ้าทั้งสอง แต่แม่เชื่อว่าแม่เลือกคนไม่ผิด เสด็จย่าของเจ้าเองก็ด้วย” หลิวฮองเฮาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับบุตรชาย พระนางไม่เคยได้มีโอกาสเลี้ยงดูโอรสจนเติบใหญ่ พอเจอกันครั้งนี้บุตรชายกลับได้รับสมรสพระราชทาน ยิ่งรู้สึกราวกับห่างไกลจากบุตรยิ่งนัก
“พะยะค่ะเสด็จแม่” หานไท่หยางซ่อนรอยยิ้มแห่งความสุขเอาไว้ในใจ เขามองพระมารดาด้วยความเคารพ หากที่นี่ไม่มีพระมารดาเกรงว่าเขาคงไม่อาจได้กลับมาเหยียบแผ่นดินต้าหานอีกแล้ว
จางอวิ๋นซีกำลังถูกมารดา ไท่ฮูหยินและหรูหรง รวมถึงสาวใช้คนอื่นๆ ในจวนช่วยกันแต่งหน้าแต่งอาภรณ์ให้นางงดงามที่สุด วันนี้เป็นวันมงคลของสกุลจาง ต่างมีแขกเหรื่อมากหน้าหลายตามาเยี่ยมเยียนบิดาของนางมิได้ขาด ด้วยเพราะตำแหน่งพระชายาของนางนั้นมีความสำคัญยิ่ง หานไท่หยางเป็นโอรสของฮองเฮา ลำดับศักดิ์ขึ้นครองราชย์ย่อมมีมากกว่าพี่น้ององค์อื่นๆ ฉะนั้น นางก็อาจจะกลายเป็นว่าที่ฮองเฮาในอนาคตนี้
เหล่าลูกหลานบัณฑิตที่คบค้ากับจางเยี่ยนมานานต่างนำสิ่งของมาแวะเวียนให้มิได้ขาด นับว่าไท่ฮูหยินและมารดาของนางคิดถูกนักที่ไม่ริบสินสมรสของนางไปและมิได้นำไปมอบให้กับจางเยี่ยน หาไม่แล้วสินสมรสของหานไท่หยางเหล่านั้นอาจถูกผู้เป็นบิดาละลายไปกับเหล่าขุนนางพวกนั้น
ปิ่นปักผมพระราชทานของไทเฮาซึ่งสั่งทำขึ้นมาใหม่ ถูกประดับด้วยไข่มุกราตรีจำนวนหลายเม็ดแวววาวสวยงาม จางฮูหยินนำมาปักมวยผมของจางอวิ๋นซีก่อนจะคลุมทับด้วยผ้าคลุมหน้าสีแดง
“หลานสาวย่าวันนี้เจ้างดงามยิ่งนัก” ไท่ฮูหยินประสานมือพร้อมกับสีหน้าตื้นตันดีใจนัก น้ำตาของหญิงชราไหลลงมาโดยมิรู้ตัว เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ
จางฮูหยินลูบมือบุตรสาวอย่างอ่อนโยน “จำไว้นะลูก เจ้าแต่งงานเข้าจวนท่านอ๋องแล้ว เจ้าจะดื้อซนไม่ได้แล้วนะ หานไท่หยางเป็นบุรุษหน้านิ่ง แต่อารมณ์ร้อน การจะทำให้เขารักเจ้าได้นั้น เจ้าต้องมีความใจเย็น ลูกแม่นั้นงดงามเป็นหนึ่ง การจะทำให้สามีรักนั้นมิใช่เรื่องยากเลย”
“เจ้าค่ะท่านแม่” จางอวิ๋นซีตอบเสียงใสผ่านผ้าคลุมใบหน้า
เมื่อถึงเวลามงคลฤกษ์เดินทางสู่วังหลวง จางเยี่ยนในฐานะผู้เป็นบิดาออกมายืนรอบุตรสาวที่หน้าเรือนนอนของอีกฝ่าย พร้อมกับจางเซียวหรูและหลี่ฮูหยิน
จางเซียวหรูอดริษยาน้องสาวต่างมารดาไม่ได้ นางเก็บทุกความเกลียดชังที่โดนจางอวิ๋นซีทำให้อับอายเอาไว้ในใจ
“แต่งเข้าจวนอ๋องถือว่าสุขสบายเสียเมื่อไหร่ ทำตนเช่นนี้ไม่ช้าเร็วก็คงมีพระชายารอง อนุอีกมากมาย นางทนได้ไม่นานหรอกเจ้าค่ะท่านแม่” จางเซียวหรูกล่าวพลางลอบยิ้มเยาะอีกฝ่าย จางอวิ๋นซีที่ได้ยินไม่ใคร่ใส่ใจนัก วันนี้นางกำลังจะแต่งงานเข้าจวนอ๋อง ควรรักษาเกียรติและไว้หน้ามารดาเสียหน่อย
หลี่ฮูหยินยิ้มรับคำกล่าวของบุตรสาว “วาสนาของลูกแม่ยังมิดับสูญ ท่านอ๋องหานอี้นั้นเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท แต่หานไท่หยาง กลับไม่เป็นที่โปรดปราน ใครจะได้เป็นรัชทายาทนั้นสุดจะคาดเดา เจ้าเตรียมตัวรอเป็นพระชายาของหานอี้ได้เลย”
“เจ้าค่ะท่านแม่” จางเซียวหรูยิ้มอ่อนน้อมรับ
เสียงกลองและเสียงแตร เสียงดนตรีแห่งมงคลฤกษ์ดังก้องทั่วบริเวณที่รถม้าของจางอวิ๋นซีขับเคลื่อน รายทางนั้นถูกโปรยด้วยดอกไม้สีแดงงดงาม ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งสู่วังหลวง หญิงสาวนั่งอยู่ในรถม้าเพียงผู้เดียวมาตลอดทาง ส่วนจางฮูหยิน จางเยี่ยนและไท่ฮูหยินนั้นอยู่บนขบวนรถม้าอีกคันซึ่งตามหลังขบวนเจ้าสาวมาเช่นกัน ส่วนหรูหรงนั้นได้รับหน้าที่ให้ติดตามมารับใช้นางในวัง จึงเดินมาข้างๆ กับรถม้า
ของนาง
หญิงสาวเปิดผ้าม่านออกเล็กน้อย มองบรรยากาศมุ่งสู่วังหลวงรอบๆ ถนนสายหลักเส้นนี้
